ขายอาหารเสริม ราคาส่ง ขายถูกที่สุด ไม่คิดค่าส่ง

ระวัง กิน มังสวิรัติ ไม่ถูกวิธี อันตราย

รูป การกิน มังสวิรัติ ให้ถูกวิธี

            พูดถึงอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว หนึ่งในนั้นที่ผู้คนมักนึกถึงคือ มังสวิรัติหลายคนบอกรับประทานแล้วอิ่มใจ (ที่ไม่ต้องเบียดเบียนเพื่อนร่วมโลก) และสบายท้อง (เนื่องจากปราศจากเนื้อสัตว์ และไขมันอิ่มตัวที่ย่อยยาก) แนวโน้มที่ผู้บริโภคจะหันมารับประทานมังสวิรัติจึงมีมากขึ้นทุกวัน มังสวิรัติมีมากมายหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น มังสวิรัติที่งดผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด (Pure Vegetarian) มังสวิรัติที่รับประทานนม ผลิตภัณฑ์จากนม และไข่ (Lacto-Ovo Vegetarian) มังสวิรัติเจที่ไม่แตะพืชกลิ่นฉุน ๕ อย่าง หรือมังสวิรัติขั้นเทพที่ยังชีพด้วยพืช ผัก ผลไม้ดิบ ไม่ผ่านการปรุงหรือหุงต้ม (Raw Food Vegetarian) รวมไปถึง Fruitarian มังสวิรัติที่กินแต่ผลไม้กับถั่ว

            อาหารทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อด้อย มังสวิรัติเองก็เช่นกัน ใครที่คิดจะรับประทานมังสวิรัติจึงควรศึกษาสักนิด จะได้รับประทานอย่างถูกวิธีโดยที่ไม่กระทบต่อสุขภาพ ว่ากันว่าการรับประทานมังสวิรัติช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน รวมถึงมะเร็งบางชนิด นั่นอาจเป็นเพราะคนที่รับประทานมังสวิรัติส่วนใหญ่จะเลือกบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น แป้งไม่ขัดสี ธัญพืช ผัก ผลไม้ ถั่วเมล็ดแห้ง และเมล็ดพืชต่าง ๆ ขณะเดียวกันการงดบริโภคเนื้อสัตว์ก็ทำให้ลดไขมันอิ่มตัวซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่บั่นทอนสุขภาพได้ อย่างไรก็ตาม ผู้รับประทานมังสวิรัติก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ความเสี่ยงที่ว่าคือการขาดสารอาหาร เช่น

•          แคลเซียม มังสวิรัติที่ละเว้นนมและผลิตภัณฑ์จากนม เสี่ยงที่จะขาดสารอาหารชนิดนี้และอาจทำให้กระดูกพรุน วิธีป้องกันคือ รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงได้แก่ ผักใบเขียว ถั่ว ธัญพืช น้ำส้ม นมถั่วเหลือง เต้าหู้ และผลิตภัณฑ์อาหารที่เสริมแคลเซียม เช่น ซีเรียลหรือคอร์นเฟลกทั้งหลาย และหากจำเป็นจริง ๆ ก็อาจซื้อหาแคลเซียมในรูปอาหารเสริมมารับประทาน

•          ธาตุเหล็ก พบในอาหารทั้งจากพืชและเนื้อสัตว์ การขาดธาตุเหล็กจะทำให้เป็นโลหิตจาง เนื่องจากร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากพืชได้น้อยกว่าเนื้อสัตว์ ดังนั้นชาวมังสวิรัติจึงควรรับประทนอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กอย่างสม่ำเสมอ เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง พืชตระกูลถั่ว พืชใบเขียว และผลิตภัณฑ์ธัญพืชที่เสริมธาตุเหล็ก นอกจากนั้น ยังต้องรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงเพื่อช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก

•          วิตามินบี 12 พบในแหล่งอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ไข่และนม อาจพบในสาหร่ายสไปรูไรน่าบ้าง แต่ก็ไม่มากพอกับความต้องการของร่างกาย การขาดวิตามินบี 12 จะนำไปสู่ภาวะเลือดจางชนิด Permicious Anemia ผู้รับประทานมังสวิรัติอาจต้องรับประทานวิตามินบี 12 ในรูปอาหารเสริม

•          กรดไขมันโอเมก้า-3 หลายคนเข้าใจว่าที่มาของโอเมก้า-3 ต้องเป็นปลาทะเลน้ำลึกเท่านั้น แต่ความจริงยังพบจากแหล่งอื่นด้วย เช่น เมล็ดลินินหรือน้ำมันลินิน น้ำมันคาโนล่า น้ำมันถั่วลิสง เมล็ดฟังทอง ถั่ววอลนัท และผักใบเขียวบางชนิด กรดไขมันโอเมก้า-3 มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ และเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย

•          โปรตีน พบทั้งในพืชและสัตว์นั้นก็มีความแตกต่างกัน โปรตีนในสัตว์จะมี Essential Amino Acids หรือกรดอะมิโนจำแป็นที่ร่างกายต้องการครบทั้ง 9 ชนิด ในขณะที่โปรตีนจากพืชจะมีกรดอะมิโนจำเป็นบางตัวเท่านั้น ดังนั้น จึงควรเลือกรับประทานให้หลากหลายและคละ ๆ กันไป เช่น รับประทานข้าวผสมถั่วและงา เป็นต้น

•          สังกะสี เช่นเดียวกับธาตุเหล็ก ร่างกายดูดซึมสังกะสีจากแหล่งเนื้อสัตว์ได้ดีกว่าสังกะสีจากพืช อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารสลับเวียนจะทำให้บรรเทาปัญหานี้ได้ แหล่งอาหารที่อุดมด้วยสังกะสี ประกอบด้วย ธัญพืชทั้งหลาย ถั่วเมล็ดแห้ง พืชตระกูลถั่ว ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และผักต่าง ๆ

 

            ในการรับประทานมังสวิรัติ สิ่งที่ต้องระวังคือ อย่าเน้นรับประทานคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป และแต่ละมื้อควรมีโปรตีน (จากพืช) อย่างเพียงพอ เนื่องจากโปรตีนย่อยช้ากว่าแป้ง คนที่รับประทานโปรตีนไม่พอจะรู้สึกหิวเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมการรับประทานแบบมากเกินไป นอกจากนั้น การรับประทานแป้งและน้ำตาลเยอะ ยังนำไปสู่การเกิดวงจรอุบาทว์ นั่นคือ

             เสพติดการรับประทานหวาน   ---> น้ำตาลในเลือดผันผวน --->  เกิดโรคเบาหวาน

             อาหารมังสวิรัติก็เหมือนกับอาหารทั่วไป นอกจากต้องเลือกรับประทานให้สมดุลแล้ว การจะมีสุขภาพดียังขึ้นกับหลายปัจจัยอีกด้วย สำหรับผู้ที่อยากมุ่งสู่สายมังสวิรัติ หาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องจะได้หลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพกาย