น้ำมันปลา (Fish oil) สินค้านำเข้า ราคาถูก
Madre Labs, โอเมก้า 3 น้ำมันปลาพรีเมี่ยม, ขนาด 180 mg EPA/120 มิลลิกรัม DHA, 100 Soft gels
เรามาทำความรู้จักกับ น้ำมันปลา กัน มัน คืออะไร มีประโยชน์อะไร
น้ำมันปลา หรือ Fish oil มันคือ น้ำมันที่สกัดมาจาก ส่วนเนื้อ ส่วนหนัง ส่วนหัว และส่วนหางของ ปลาทะเลน้ำลึก อาทิเช่น แมคคาเรล แซลม่อน ปลาทูน่า เป็นต้น โดยในน้ำมันปลานั้น มีกรดไขมันที่สำคัญมากมาย และ ที่มีการนำมาใช้ทางการแพทย์กันอย่างแพร่หลายและที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี คือ กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 (Omega-3) กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 6 (Omega-3) ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่ที่อิ่มตัว (Polyunsaturated Fatty Acid)
กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ที่สำคัญอีก 2 ชนิด นั่นคือ 1. กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก EPA (Eicosapentaenoic acid) 2. กรดโดโคซาเฮ็กซาอีโนอิก DHA (Docosahexaenoic acid) เป็นกรดไขมันที่จำเป็นมาก เพราะร่างกายไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นเองได้ แต่ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น
สำหรับกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 6 ก็เช่นกัน เป็นกรดไขมันที่สำคัญ อีกชนิดหนึ่งซึ่งมีความสามารถในการลดไขมันในเลือด ส่วนใหญ่มักพบมากในน้ำมันพืชหลายชนิด อาทิเช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย เป็นต้น
สำหรับในวงการแพทย์นั้น ให้ความสนใจถึง คุณประโยชน์ของน้ำมันปลา ที่มีผลต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ นั้นซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่หลอดเลือดแดง ที่ไปเลี้ยงหัวใจไหลเวียนไม่ดี เพราะผนังหลอดเลือดนั้นหนาและแข็งขึ้น จากการเกาะตัวของโคเลสเตอรอลนั่นเอง และการอุดตันของเกร็ดเลือดที่รวมตัวกันส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและ ถ้ารุนแรงถึงขั้นอาจเสียชีวิตได้ สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ทุกๆครั้ง จึงมักได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ให้รับประทานอาหารเสริมที่ทำมาจาก น้ำมันปลา เพราะมีส่วนช่วยอย่างมาก ในการลดระดับไขมันในเลือด และลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ทำให้การไหลเวียนของหลอดเลือดดีขึ้น ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้ช่วยลดปัญหาโรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือดได้เป็นอย่างดีที่สุด
ขนาดรับประทานน้ำมันปลา
ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพ และผู้ป่วยโรคหัวใจควรรับประทานน้ำมันปลา ประมาณ 1,000 มิลลิกรัม/วัน (1 แคปซูล หลังอาหาร) ผู้ป่วยที่ต้องการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ควรรับประทานวันละ 2 – 4 กรัม (ประมาณ 3 แคปซูลหลังอาหาร)